กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน
คุณสุภาพสตรีที่รักสุขภาพ ท่านเคยมีพฤติกรรมเช่นนี้หรือไม่? ดื่มน้ำน้อยและอั้นปัสสาวะ ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับสตรีวัยทำงาน ที่ดำรงชีวิตในแต่ละวันกับการทำงานที่แข่งกับเวลา จนมิได้ใส่ใจกับการดื่มน้ำที่เพียงพอ รวมถึงการเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่ายปัสสาวะ สุขภาพสตรีส่วนใหญ่มองว่าการดื่มน้ำมาก ทำให้มีภาวะต้องเข้าห้องน้ำบ่อยเพื่อถ่ายปัสสาวะ จึงไม่ใส่ใจที่จะดื่มน้ำที่มีความจำเป็นและสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างยิ่ง
ร่างกายมนุษย์ประมาณ 75% ของร่างกายประกอบด้วยน้ำ และมีความจำเป็นที่ต้องอาศัยน้ำเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้าง ซ่อมแซมฟื้นฟูอวัยวะต่างๆและทุกระบบในร่างกายให้สามารถทำงานอย่างสมบูรณ์และปกติได้ การดื่มน้ำมากและเพียงพอต่อร่างกายที่จะนำไปใช้ประโยชน์ ต้องดื่มให้ได้อย่างน้อยวันละ 6 – 8 แก้ว (1½ - 2 ลิตร) เมื่อดื่มน้ำได้ปริมาณที่ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้ ย่อมจะช่วยขจัดของเสียในร่างกายให้ออกทางปัสสาวะ อุจจาระและเหงื่อได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นการดื่มน้ำมากจะช่วยขจัดของเสียออกจากร่างกายทางปัสสาวะมากขึ้นด้วย ย่อมเป็นผลดีต่อร่างกายในการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย
ดังนั้นผู้ที่ดื่มน้ำน้อยและอั้นปัสสาวะโดยเฉพาะในสตรี ย่อมมีผลเสียกับร่างกายอย่างคาดไม่ถึง มาทำความเข้าใจกับโครงสร้างระบบขับถ่ายของเสียของสุภาพสตรี ดังนี้
มีไต 2 ข้าง กรวยไตที่จะกลั่นกรองของเสียออกเป็นปัสสาวะ มีท่อไต 2 ข้างลำเลียงให้น้ำปัสสาวะลงสู่กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ เพื่อขับถ่ายปัสสาวะออกจากร่างกาย ท่อปัสสาวะของสุภาพสตรีต่างจากท่อปัสสาวะของสุภาพบุรุษ และเป็นจุดอ่อนของอวัยวะส่วนนี้ คือ ท่อปัสสาวะของสตรีสั้นกว่าของบุรุษ เมื่อดื่มน้ำน้อยและอั้นปัสสาวะ มีผลทำให้ปัสสาวะที่ออกจากกรวยไต ส่งต่อท่อไตลงสู่กระเพาะปัสสาวะ มีความข้นและสีของน้ำปัสสาวะจะเหลืองหรือสีจำปา เป็นสาเหตุให้เชื้อแบคทีเรียมารวมตัวบริเวณปลายกระเพาะ ปัสสาวะส่วนต่อกับท่อปัสสาวะ เชื้อแบคทีเรียจึงก่อปฏิกิริยาให้ท่อปัสสาวะเกิดการอักเสบได้ มักจะพบบ่อยกับสุภาพสตรีทุกวัยอายุที่ดื่มน้ำน้อยและอั้นปัสสาวะ โดยเฉพาะสตรีวัยทำงาน เมื่อท่อปัสสาวะเกิดการอักเสบสามารถทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ และลุกลามขึ้นท่อไต ก่อให้เกิดกรวยไตอักเสบเฉียบพลันได้ หากโรคลุกลามรุนแรง เชื้อโรคสามารถจะเข้าสู่กระแสเลือดก่อให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด เกิดโลหิตเป็นพิษได้
อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เริ่มต้นมีอาการปวดกระเพาะปัสสาวะบริเวณท้องน้อย ปวดแสบท่อปัสสาวะเวลาขับถ่ายปัสสาวะ ปัสสาวะติดขัดไม่ต่อเนื่อง อาจมีไข้ร่วมด้วย อ่อนเพลีย ปากแห้ง คอแห้ง และเมื่อเชื้อโรคลุกลามผ่านท่อไตสู่กรวยไต เกิดการอักเสบที่กรวยไต การขับถ่ายปัสสาวะจะยิ่งลำบากมากขึ้น อาการปวดรุนแรงขึ้นถึงขั้นปัสสาวะมีเลือดปนออกมาด้วย ไข้ขึ้นสูงและเป็นไข้ยาวนานขึ้น
เมื่อเริ่มมีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบขับถ่าย ปวดและแสบภายในกระเพาะปัสสาวะ น้ำปัสสาวะมีสีเหลืองหรือสีจำปา อาจจะอ่อนหรือเข้มให้สังเกตตัวเองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำ ควรดื่มน้ำให้มากขึ้นอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 ลิตร (8 แก้ว) ต่อวัน ทยอยดื่มตลอดทั้งวันและไม่อั้นปัสสาวะ ไม่ต้องรอจนปวดปัสสาวะมากจึงไปถ่ายออก ให้กะเวลา 1 ชั่วโมง หรือไม่เกิน 1.5 ชั่วโมง (90 นาที) ควรถ่ายปัสสาวะออก รับประทานอาหารให้ตรงเวลาและทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง อาการของโรคจะหายสู่ปกติได้ แต่หากมีอาการไข้ อ่อนเพลีย ปัสสาวะปวดแสบรุนแรง มีเลือดออกปนกับปัสสาวะ เป็นอาการของกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคร่วมกับการรักษาทางยา ควรต้องรับประทานยามตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ดื่มน้ำให้มากขึ้นและไม่อันปัสสาวะ ท่านจะสามารถกลับสู่สภาวะปกติได้ ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำและขับปัสสาวะให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันมิให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบและกรวยไตอักเสบเฉียบพลันเกิดขึ้นอีก
การดื่มน้ำไอวอเตอร์ (iWater) อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องวันละ 6 - 8 แก้ว (1.5 - 2 ลิตร) ช่วยป้องกัน ซ่อมแซมและฟื้นฟูโรคกระเพาะอักเสบและโรคกรวยไตอักเสบเฉียบพลันได้แน่นอน
