ภาวะอ้วน ลงพุง!!
ภาวะอ้วนลงพุง หรือ โรคอ้วนลงพุง (Metabolic Syndrome) คือ ภาวะความผิดปกติของกระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกาย ส่งผลให้มีไขมันสะสมที่หน้าท้องและมีรอบเอวขนาดใหญ่ ทั้งยังมีระดับความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตในเลือดสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคเบาหวานได้
การวินิจฉัยภาวะอ้วนลงพุง
จากการสังเกตภายนอก มักมีลักษณะอ้วนและน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐาน มีรอบเอวหรือพุงขนาดใหญ่จนเห็นได้ชัดเจน แพทย์จะวินิจฉัยจากการตรวจร่างกายและการตรวจเลือด ซึ่งผู้มีภาวะอ้วนลงพุงจะต้องมีความผิดปกติอย่างน้อย 3 ข้อ ดังต่อไปนี้
- เส้นรอบเอว ตั้งแต่มากกว่า 80 เซนติเมตรขึ้นไปสำหรับเพศหญิง และมากกว่า 90 เซนติเมตรขึ้นไปสำหรับเพศชาย
- ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (HDL) ต่ำกว่า 50 มิลลิกรัม/เดซิลิตร สำหรับเพศหญิง และต่ำกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตร สำหรับเพศชาย
- ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ตั้งแต่ 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ขึ้นไป
- ระดับความดันโลหิต ตั้งแต่ 130/85 มิลลิเมตรปรอท ขึ้นไป
- ระดับน้ำตาลในเลือด ตั้งแต่ 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ขึ้นไป
ผู้ที่มีภาวะอ้วนลงพุง จะมีการสะสมของไขมันในบริเวณช่องท้องเป็นจำนวนมาก จึงส่งผลให้การเผาผลาญน้ำตาลในร่างกายผิดปกติ จนน้ำตาลในเลือดสูงและเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น บางกรณีอาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนมากจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ผู้มีความเสี่ยงต่อภาวะอ้วนลงพุง
- สตรีวัยเจริญพันธุ์ที่มีการตกไข่ไม่สม่ำเสมอ
- ผู้ที่มีภาวะเบาหวานในขณะตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวมีภาวะอ้วนลงพุงหรือเป็นโรคเบาหวาน (กรรมพันธุ์)
- ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง และโรคความดันโลหิตสูง
- ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไขมันพอกตับ ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) และอื่นๆ
- ผู้ที่สูบบุหรี่ และดื่มสุราเป็นประจำ
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินกว่ามาตรฐาน
- ผู้สูงอายุ หรือสตรีวัยหมดประจำเดือน
- เพศชาย มีความเสี่ยงต่อภาวะอ้วนลงพุงมากกว่า เพศหญิง
- เชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์ คนผิวดำหรือแอฟริกา แคริบเบียน จะมีโอกาสพบภาวะอ้วนลงพุงมากกว่าปกติ
สาเหตุภาวะอ้วนลงพุง
ภาวะอ้วนลงพุงส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการทานอาหารเกินความต้องการของร่างกาย ทำให้เกิดการสะสมของไขมันบริเวณช่องท้องมาก กว่าปกติ แต่อาจมีปัจจัยร่วมด้วยหลายอย่างซึ่งทำให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง โดยเฉพาะที่สำคัญคือ
- ภาวะต้านอินซูลิน เกิดจากการทานแป้งมากทำให้น้ำตาลสูง
- ภาวะต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ และเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน
- ภาวะความเครียดสะสม
- พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้อง
- ขาดการออกกำลังกาย หรือออกกำลังกายน้อย
- โรคเบาหวานหรือน้ำตาลในเลือดสูง
ผลเสียต่อสุขภาพจากภาวะอ้วนลงพุง
- ทำให้หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบ เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้ง่าย
- ไตจะขับเกลือออกได้น้อยลง ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง
- มีไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดตีบ
- เลือดจะแข็งตัวได้ง่าย ทำให้เกิดการอุดตันหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจและสมอง
- เป็นโรคเบาหวานได้ง่ายกว่าคนปกติ
- เป็นโรคเกี่ยวกับระบบการหายใจ ทำให้หายใจเข้า-ออกลำบาก อาจเกิดภาวะขาดออกซิเจน ทำให้เหนื่อยง่าย และรู้สึกอ่อนเพลีย
- มีความดันโลหิตสูงกว่าคนปกติประมาณ 2.9 เท่า ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก
การรักษาภาวะอ้วนลงพุง
เป้าหมายของการรักษาภาวะอ้วนลงพุง คือ ลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน หรือโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและพฤติกรรม ด้วยการลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต ซึ่งอาจปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่ว เนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เนื้อสัตว์ปีก อาหารจำพวกที่มีไขมันชนิดดี นมไขมันต่ำ และไข่ เป็นต้น รวมถึงจำกัดปริมาณการบริโภคอาหารที่มีรสเค็มจัดหรือหวานจัด และอาหารที่มีไขมันทรานส์ หรือไขมันอิ่มตัว
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ควรมีดัชนีมวลร่างกายอยู่ที่ระหว่าง 18.5 - 24.9 ซึ่งแสดงถึงรูปร่างที่ไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป
- จัดการกับความเครียด โดยผ่อนคลายความเครียดด้วยวิธีการหลากหลายรูปแบบ เช่น เล่นกีฬา ฝึกโยคะ นั่งสมาธิ ทำงานอดิเรกหรือกิจกรรมที่ชื่นชอบ เป็นต้น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ เพราะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี ช่วยรักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และช่วยลดน้ำหนักตัวได้
- เลิกสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการสูบบุหรี่เป็นหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือภาวะหัวใจขาดเลือด และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มีปริมาณพลังงานมากถึง 7 กิโลแคลอรี่/กรัม เมื่อเทียบกับอาหารประเภทแป้ง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะกระตุ้นให้ร่างกายอยากอาหารเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามหากปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและพฤติกรรมตามข้างต้นแล้วไม่เป็นผล แพทย์อาจให้ผู้ป่วยรับประทานยารักษาควบคู่ไปด้วยตามความเหมาะสม
การป้องกันภาวะอ้วนลงพุง
- ควบคุมอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ ลดแป้ง ลดน้ำตาล ลดอาหารที่มีไขมันเลวหรือคอลเลสเตอรอลสูง เน้นผักและผลไม้ รวมทั้งโปรตีนไขมันน้อย ควรรับประทานให้ได้ตามสัดส่วนที่ร่างกายต้องการ คือ ผัก : แป้ง : โปรตีน (2:1:1)
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารฟาสต์ฟูด (Fast Food) และอาหารขยะ (Junk Food)
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสหวาน เช่น ไอศกรีม เค้ก ช็อคโกแลต เป็นต้น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ครั้งละ 30 นาทีขึ้นไป สัปดาห์ละ 3 – 5 ครั้ง
- เพิ่มกิจกรรมในชีวิตประจำวันเพื่อช่วยเผาผลาญพลังงาน เช่น การเดิน การทำงานบ้าน หรือการทำสวน เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสุบบุรี่
- ดื่มน้ำเปล่า หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีรสหวาน เช่น น้ำหวานหรือน้ำอัดลม
จาปินขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ สนับสนุนคนไทยให้ห่างไกลจากภาวะอ้วนลงพุง โดยเริ่มต้นทุกเช้าด้วยการดื่มน้ำไอวอเตอร์ (iWater) น้ำดื่มที่สะอาด ปราศจากเชื้อโรคและแบคทีเรีย มีแร่ธาตุตามธรรมชาติ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม จาปินหวังให้ทุกท่านห่างไกลจากภาวะอ้วนลงพุง เพื่อสุขภาพของท่านและครอบครัว อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำนะคะ
